พลังงานดวงอาทิตย์ มาจาก ดวงอาทิตย์ ดั่งที่เราได้ทราบกัน แต่รู้หรือไม่ว่า ดวงอาทิตย์ มีความลับมากมายซ่อนอยู่ วันนี้ พาตะลอน จะพาผู้อ่านไปรู้จัก เรื่องน่ารู้จากดวงอาทิตย์ ที่เป็นวิทยาศาสตร์ของ พลังงานกับชีวิต
ดวงอาทิตย์ กำเนิดจากเมฆฝุ่นก๊าซขนาดใหญ่ ซึ่งยุบตัวลงภายใต้ความโน้มถ่วงของตัวเอง ระหว่างที่เมฆฝุ่นก๊าซยุบตัวลง ก็เกิดความร้อน และความดันมหาศาล องค์ประกอบส่วนใหญ่ของดวงอาทิตย์ เป็นก๊าซ แรกเริ่มประกอบด้วย ไฮโดรเจน 100% แต่ตอนนี้ ดวงอาทิตย์ประกอบไปด้วย
ทุกสรรพสิ่งบนโลก ใช้ประโยชน์จากพลังงานความร้อน และพลังงานแสงอาทิตย์มาอย่างยาวนาน มนุษย์ใช้ความสว่างจากพลังงานแสงโดยตรง ในการดำเนินชีวิต การใช้พลังงานความร้อนเพื่อตากผ้า และถนอมอาหาร
พืช ก็ได้ใช้แสงสว่าง เป็นส่วนประกอบในการสังเคราะห์แสง เป็นแหล่งกำเนิดอาหารของสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลก เมื่อวิทยาการก้าวล้ำขึ้น มนุษย์จึงได้รู้จักการเปลี่ยนรูปพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานไฟฟ้า ผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า เซลล์แสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์
โลกได้รับพลังงานแสง และความร้อนจาก ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน จากภายในดวงอาทิตย์ ที่ใช้เวลากว่า 50 ล้านปี จากการเดินทางของพลังงานในใจกลางดวงอาทิตย์ ถึงพื้นผิวดวงอาทิตย์ และอีก 8 นาที กว่าพลังงานนั้นจะเดินทางมาถึงโลก
อีก 5,000 ล้านปี ดวงอาทิตย์จะดับ โดยนักดาราศาสตร์คำนวณว่า ดาวฤกษ์แต่ละดวง จะมีอายุขัยที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับมวลของดาวฤกษ์นั้น และดวงอาทิตย์ก็เป็นดาวฤกษ์ดวงหนึ่ง ที่ให้พลังงานแก่โลก ปัจจุบันดวงอาทิตย์อยู่มาแล้วกว่า 5,000 ล้านปี และเหลือเวลาอีก 5,000 ล้านปี ตามอายุขัย 10,000 ล้านปีของมัน
ทางศาสนาเชื่อว่า เมื่อร่างกายมนุษย์ดับสิ้น กลายเป็นเถ้าถ่าน ดวงจิตหรือวิญญาณยังคงอยู่ เฉกเช่นกับดวงอาทิตย์ เมื่อถึงเวลาแห่งการสูญสลายตามอายุขัยของมันแล้ว นักดาราศาสตร์เชื่อว่า ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นกลุ่มฝุ่นละออง และก๊าซเรืองแสงขนาดใหญ่ เรียกว่า เนบิวลาดาวเคราะห์ กระจายไปในความมืดมิดของอวกาศ
พลังงานจากดวงอาทิตย์ เป็นแหล่งพลังงานสะอาด ที่ไม่มีวันหมด และนำมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อไป โดยการผลิตไฟฟ้ามีหลายรูปแบบดังนี้
โซลาร์เซลล์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานไฟฟ้า ทำมาจากสารกึ่งตัวนำ ซิลิกอน (Si) ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่พบในทราย เมื่อแสงแดดซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า กระทบกับสารกึ่งตัวนำ ก็จะเกิดการถ่ายทอดพลังงานระหว่างกันขึ้น เกิดเป็นกระแสไฟฟ้า โดยโซลาร์เซลล์มีสารกึ่งตัวนำสองชนิดคือ
ส่วนประกอบของโซลาร์เซลล์จะประกอบด้วย
ลมเกิดมาจาก ความต่างกันของอุณหภูมิ หรือ ความกดอากาศ ที่ดวงอาทิตย์มีส่วนช่วยให้เกิดลมขึ้น จากอุณหภูมิที่ส่งมายังโลก โดยปกติ อากาศจะลอยตัวขึ้น เมื่ออุณหภูมิสูง ทำให้อากาศที่มีอุณหภูมิต่ำข้างเคียง เข้ามาแทนที่จนเกิดลม หรือลมเกิดจากบริเวณที่มีความกดอากาศสูง เคลื่อนเข้าสู่บริเวณความกดอากาศต่ำ
การนำลมมาผลิตไฟฟ้า ต้องใช้ กังหันลม ในการเปลี่ยน พลังงานจลน์ จากการเคลื่อนที่ของลม ไปเป็น พลังงานกล ไปที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โดยควรมีความเร็วลมเฉลี่ยที่ 6.4-7 เมตรต่อวินาที
ที่ความสูง 50 เมตร กระแสลมไม่แปรปรวน และมีความต่อเนื่อง จึงจะสามารถผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมได้ดี ด้วยสภาพภูมิอากาศแบบนี้ การผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลม จึงเหมาะสมกับสภาพพื้นที่แถบยุโรปเหนือ หรือบริเวณช่องเขาในอเมริกา เนื่องจากมีกระแสลมที่เร็ว และต่อเนื่อง
สำหรับในประเทศไทย ความเร็วลมปกติอยู่ที่ 1.7-3.1 เมตรต่อวินาที และมีความเร็วลมสูงสุดที่ 2.5-4.2 เมตรต่อวินาที ซึ่งต่ำเกินกว่าที่จะผลิตพลังงานไฟฟ้าจากกังหันลม แต่พื้นที่ใกล้ทะเลบางแห่ง สามารถเป็นฐานการผลิตไฟฟ้า จากกระแสลมได้
พลังงานดวงอาทิตย์ นับเป็นพลังงานสำคัญ ในการขับเคลื่อนต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลก มีความสำคัญที่จะช่วยให้เกิดปรากฏการณ์สำคัญต่างๆ อย่างการเกิดลม การเกิดน้ำ พลังงานดวงอาทิตย์นั้น ยังเป็นพลังงานสะอาด ที่ให้เราดึงมาใช้ได้โดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกนานกว่า 5,000 ล้านปี ตามอายุขัยของเจ้าดวงอาทิตย์นี้
อัปเดตข่าวสารฉับไวทุกวัน ทุกเรื่องบนโลกใบนี้ ทุกข่าวสารใหม่ เนื้อหาเน้นๆ รู้ทันก่อนใคร ติดตามได้ที่พาตะลอน